บันทึกอนุทินครั้งที่3
วันที่ 25 ม.ค. 2562
เวลาเรียน 11.30-14.30น.
EAED1103การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
ว่าที่ ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด (อ.บาส)
สัปดาห์ที่3ในการเรียนสัปดาห์นี้การเรียนการสอนนั้นอาจารย์ได้เปิดวิดีโอเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัยให้ดูก็คือตั้งแต่แรกเกิดเลยว่าแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนาในส่วนไหนบ้างและมีความแตกต่างกันยังในทั้ง4ด้าน
พัฒนาการของเด็ก จะแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังนี้
1. พัฒนาการด้านร่างกาย
2. พัฒนาการด้านสติปัญญา
3. พัฒนาการด้านอารมณ์
4. พัฒนาการด้านสังคม
พฤติกรรมและทักษะชีวิตของมนุษย์ได้จากการเรียนรู้และการสะสมประสบการณ์ การเรียนรู้ทักษะบางอย่างจะง่ายและ ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาหนึ่งมากกว่าอีกเวลาหนึ่งและสังคมจะคาดหวังให้เด็กแต่ละคนทำพฤติกรรมที่เหมาะสมให้ได้ ในแต่ละช่วงอายุของบุคคล
พัฒนาการที่สำคัญในแต่ละวัย
วัยทารก (0-2 ปี) อายุ 0-6 สัปดาห์
เด็กมองหน้าแม่ ทำเสียงในลำคอ ฟังเสียงคุยแล้วยิ้มตอบ
อายุ 4-6 เดือน
จำหน้าแม่ได้ ส่งเสียงอ้อแอ้และยิ้มตามเสียง เด็กสามารถเอื้อมคว้าจับสิ่งของมาเข้าปาก
อายุ 6-9 เดือน
สามารถแยกเสียงของแม่ได้ เริ่มแยกแยะความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ชัดเจน เด็กจำหน้าแม่ได้ เด็กจะแสดงอาการแปลกหน้ากับผู้ที่ไม่ คุ้นเคย และจะติดแม่ เรียกว่า กลัวคนแปลกหน้า (Stranger anxiety)
อายุ 9-12 เดือน
เด็กมีความผูกพันใกล้ชิดกับผู้เลี้ยงดู (Attachment)และจะติดผู้เลี้ยงดู เมื่อต้องแยกจากพ่อแม่/ผู้เลี้ยงดู เด็กจะร้องไห้และร้องตาม เมื่อพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูกลับมา เด็กจะแสดงความดีใจโผเข้าหาและเข้ามาคลอเคลีย เด็กวัยนี้จะเริ่มกลัวการพลัดพราก (Separation anxiety)
อายุ 12-18 เดือน
-เด็กหัดเดินและชอบสำรวจ ระยะนี้เด็กจะกระตือรือร้นที่จะสำรวจสิ่งแวดล้อมค้นหาสิ่งแปลกใหม่เด็กมัก จะใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการสำรวจตรวจตรา ดังนั้นควรระมัดระวังสิ่งที่เป็นอันตราย
- ในวัยนี้เด็กจะทดสอบสิ่งต่างๆ และดูผลของการกระทำต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้าพอใจเด็กจะโยนของเล่น ว่าจะตกลงมาอย่างไร ถ้าพอใจเด็กจะโยนซ้ำ ถ้าไม่พอใจเด็กจะหยุดหรือหาวิธีอื่นๆ บางครั้งเด็กจะกรีดร้องจะเอาของมาโยนอีก
- เด็กเริ่มพูดได้ เป็นคำๆอย่างน้อย 10 คำ
อายุ 18-24 เดือน
เด็กเรียนรู้ภาษาอย่างรวดเร็ว และจดจำคำศัพท์ได้ดี
อายุ 2-3 ปี
- เด็กเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- เด็กรู้ว่าตนเองเป็นบุคคลหนึ่งที่แยกจากสภาพแวดล้อม ทำให้เด็กต้องการเป็นตัวของตัวเอง เด็กจะ พยายาม ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น จับช้อนตักอาหารเอง เด็กจึงมีพฤติกรรมต่อต้าน (Negativism) ชอบพูดว่า “ไม่” “ไม่เอา” “ไม่ทำ” เป็นต้น
อายุ 3-5 ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย
-เด็กบังคับกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น เด็กชอบปีนป่ายเตะบอล รักลูกบอล ชอบเล่นในสนาม เด็กสามารถขี่ จักรยานสามล้อได้ พัฒนาการด้านสติปัญญา
- เด็กเชื่อว่าสิ่งของทุกอย่างมีชีวิติ (Animism) เด็กชอบเล่นสมมุติโดยจะเอาตุ๊กตาตามมาเล่นแล้วสมมุติ เป็นพ่อแม่ลูก แสดงท่าป้อนข้าวลูก อาบน้ำแต่งตัวให้ลูก แสดงเป็นเรื่องราวเหมือนว่าตุ๊กตาเป็นสิ่งมีชีวิต
-เด็กเชื่อว่าทุกสิ่งในโลกมีจุดหมาย เด็กมักถามว่า “ทำไม” “ทำไมรถจึงวิ่ง” ฯลฯ
- เด็กจะเชื่อมโยงปรากฎการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันว่าเป็นเหตุและเป็นผลซึ่งกันและกัน
จะเห็นได้ว่าเด็กแต่ละช่วงวัยนั้นจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกันออกไปซึ่งในที่นี้นั้นผู้ปกครองจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กแต่ละคนและเมื่อเด็กมีความผิดปกติทางด้านพัมนาการก็ควรที่จะพาตัวเด็กนั้นไปพบหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เพื่อที่จะได้รักษาหรือรับคำแนะนำ
และก่อนจะหมดคาบอาจารย์ได้ให้แบ่งกลุ่มเพื่อที่จะทำงานและมานำเสนอในอาทิตย์หน้าซึ่งหัวข้อก็เกี่ยวกับพัฒนาการทั้ง4ด้านของเด็กที่เกี่ยวกับนักทฤษฎีแต่ละคนได้คิดค้นขึ้นมาสำหรับเด็ก
และก่อนจะหมดคาบอาจารย์ได้ให้แบ่งกลุ่มเพื่อที่จะทำงานและมานำเสนอในอาทิตย์หน้าซึ่งหัวข้อก็เกี่ยวกับพัฒนาการทั้ง4ด้านของเด็กที่เกี่ยวกับนักทฤษฎีแต่ละคนได้คิดค้นขึ้นมาสำหรับเด็ก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น